
ถ้าพูดถึงเรื่องราวของถั่ว เชื่อว่าใครหลายๆคนคงจะมองว่าเป็นเพียงอาหารประเภทหนึ่งที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรมากนัก แต่ทราบกันหรือไม่ว่า มีผลงานการวิจัยออกมาระบุว่าถั่วนั้นสามารถทำให้เรามีอายุยืนได้จริง และยังมีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายๆด้าน เรามาดูประโยชน์ดีๆของถั่วกันเลยค่ะ
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีคนหันมาบริโภคอาหารกลุ่มธัญพืชกันมากขึ้นเพื่อสุขภาพ แต่ก็คงยังมีอีกหลายคนเช่นกันที่ยังคงมีคำถามว่า ถั่วนั้นทานแล้วดีอย่างไร ดีจริงหรือไม่ แล้วมีข้อเสียอย่างไร เรามีข้อมูลมาฝากค่ะ
อย่างที่ทุกคนทราบดีว่า ถั่ว นั้นจัดว่าเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งโปรตีนคือสิ่งที่สำคัญมากในร่างกายของมนุษย์เราและแหล่งโปรตีนที่ดีก็มาจากถั่วด้วยเช่นกันค่ะ เช่นกลุ่มคนที่ทานมังสวิรัติ ทานเจ ซึ่งจะไม่ทานเนื้อสัตว์ไม่ได้โปรตีนจากเนื้อสัตว์เพราะฉะนั้นจึงหันมารับประทานถั่วแทน เพราะโปรตีนมีความสำคัญต่อร่างกายมนุษย์มาก หากร่างกายขาดโปรตีนจะส่งผลให้ไม่ค่อยมีเรี่ยวมีแรง เส้นผมไม่แข็งแรงและขาดหลุดร่วง ผิวพรรณแห้งกร้าน มีริ้วรอยเหี่ยวย่น แก่เร็ว เล็บก็ไม่แข็งแรงด้วยเช่นกัน แสดงว่าโปรตีนนั้นมีปัจจัยมีบทบาทสำคัญต่อร่างกายมนุษย์เราค่อนข้างมากถือว่าเป็นอันดับต้นๆเลยทีเดียวค่ะ
ทีนี้เรามาดูถึงข้อดีของถั่วกันดีกว่าค่ะว่ามีข้อดีอย่างไร
- ข้อดีของถั่วนั้นคือ ถั่ว ไม่ได้มีดีแค่โปรตีนแต่ในถั่วหลายๆชนิดยังมีสิ่งประกอบที่มีประโยชน์มากกว่านั้น ในถั่วนอกจากจะมีโปรตีนแล้วยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ กากใย แร่ธาตุต่างๆ เช่น ทองแดง แมกนีเซียม แมงกานีส เซเลเนียม พวกนี้จัดว่าเป็นแร่ธาตุจำเป็น และยังมี กรดอะมิโนจำเป็นอีกหนึ่งตัวที่พบในถั่วก็คือ กรดอะมิโนแอลฟาไรโปเรนิก ซึ่งเป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่ใช้ในการสร้างและซ่อมแซมร่างกาย เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยจากหลายๆที่ในต่างประเทศสรุปถึงประโยชน์ถั่วไว้ดังต่อไปนี้ค่ะ
ถั่วนั้นอุดมไปด้วยสารประกอบ เช่น โอเมก้า 3 และกรดอะมิโนแอลฟาไรโปเรนิกเอซิด ก็เป็นตัวต้นกำเนิดของโอเมก้า 3 เพราะฉะนั้น โอเมก้า 3 ทำหน้าที่ในการช่วยให้ผนังหลอดเลือด โดยเฉพาะผนังหลอดเลือดหัวใจให้นิ่มขึ้นยืดหยุ่นได้มากขึ้นทำให้คอเลสเตอรอลน้อยลง นั่นคือสิ่งที่นักวิจัยสรุปกันว่าทานถั่วแล้วช่วยลดอัตราการเป็นโรคหัวใจได้มากทีเดียว และผลการวิจัยนี้ก็เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศอีกด้วยค่ะ และนี่ก็คือข้อดีของถั่วที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น และปริมาณที่แนะนำต่อวัน จากงานวิจัย คือ1 ออนซ์ ซึ่ง 1 ออนซ์ เท่ากับ 28 กรัม และ 28 กรัมก็เท่ากับ 1 ฝ่ามือ
ถึงในตอนนี้ทุกคนคงทราบถึงประโยชน์ของถั่วกันบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ ยังไม่จบเพียงเท่านี้ค่ะ ติดตามเรื่องราวถั่วๆได้ในตอนที่ 2 ค่ะ