ผู้ป่วยไมเกรนหลายราย ต้องพึ่งพายาเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดที่อาจเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน ซึ่งกลุ่มยาที่เป็นที่นิยมสำหรับผู้ป่วยโรคนี้ คือ ยากลุ่มเออร์กอต เป็นยาที่มีราคาไม่แพง และผู้ป่วยอาจซื้อทานเองได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในการทานยา เราจึงมีคำแนะนำถึงวิธีการใช้ยากลุ่มเออร์กอตมาฝากกัน โดยมีคำแนะนำดังนี้
1.อย่าทานเกิน 6 เม็ดต่อวัน
ผู้ป่วยไมเกรนไม่ควรทานยากลุ่มนี้เกิน 6 เม็ดต่อวัน ซึ่งการทานยามากเกินไปจะทำให้ความดันโลหิตสูง ร่วมกับรู้สึกเจ็บหน้าอก คลื่นไส้ และอาเจียนได้ ดังนั้นถ้าผู้ป่วยมีอาการปวดเกิน 3 วันควรพบแพทย์จะดีกว่า
2.ทานเฉพาะเมื่อมีอาการปวด
เนื่องจากยากลุ่มเออร์กอตเป็นยาที่ใช้เมื่อเกิดอาการปวดแบบเฉียบพลัน จึงควรทานเมื่อมีอาการปวดเกิดขึ้นเท่านั้น และไม่ควรทานเกิน 10 เม็ดต่อสัปดาห์อย่างเด็ดขาด
3.ห้ามทานร่วมกับยาบางชนิด
เมื่อทานยาเออร์กอต ร่วมกับยาบางชนิด เช่น ยาต้านอาการซึมเศร้า ยาปฏิชีวนะ ยาฆ่าเชื้อรา ยาต้านไวรัสเอชไอวี จะส่งผลให้เกิดอาการข้างเคียงต่างๆ หรือเกิดความดันโลหิตสูง และรุนแรงจนเกิดภาวะเนื้อตาย เพราะเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ไม่เพียงพอ ทั้งยังเสี่ยงต่อภาวะหัวใจหยุดเต้นที่จะนำไปสู่การเสียชีวิตได้ในที่สุด ดังนั้นหากจำเป็นต้องทานยาอื่นๆ ด้วย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่าทานได้หรือไม่
4.ห้ามใช้ยากับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว
ยากลุ่มนี้ไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดตีบตัน โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โรคความดันโลหิตสูง เพราะตัวยาอาจทำให้เส้นเลือดของผู้ป่วยตีบตันมากขึ้น ซึ่งเสี่ยงเป็นอันตรายต่อชีวิตได้เลยทีเดียว
5.การเก็บรักษา
ยากลุ่มเออร์กอตจะมีแบบเม็ดซึ่งควรเก็บยาภายใต้อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส และยาแบบฉีดซึ่งควรเก็บยาไว้ที่อุณหภูมิ 2 – 8 องศาเซลเซียส ห้ามแช่แข็ง และควรเก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด ไม่โดนแดด ความร้อนและความชื้น
6.สตรีมีครรภ์ไม่ควรทาน
ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ไม่ควรทานยากลุ่มนี้ เพราะตัวยาจะออกฤทธิ์ทำให้มดลูกบีบตัวมากขึ้น จนเสี่ยงต่อการแท้งบุตรได้ และมีความอันตรายต่อตัวหญิงตั้งครรภ์เองอีกด้วย เพราะฉะนั้นหากเป็นไมเกรนขณะตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนดีกว่า ห้ามซื้อยามาทานเองเด็ดขาด
เนื่องจากยากลุ่มเออร์กอตใช้กันอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้ป่วยไมเกรน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในชีวิตของผู้ป่วย จึงควรใช้ยาภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด รวมถึงทำตามคำแนะนำเหล่านี้อย่างเคร่งครัด ก็จะทำให้คุณใช้ยาแก้ปวดไมเกรนได้อย่างปลอดภัยแล้ว