ในต่างประเทศมีการใช้สเต็มเซลล์ในการช่วยรักษาโรคกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาแทบจะทุกโรงพยาบาลมีการนำสเต็มเซลล์มาใช้กันหลากหลาย และมีหลายคนอาจสงสัยว่าแล้วเค้าใช้รักษาโรคอะไรกันบ้างจากสเต็มเซลล์ มาติดตามกันต่อได้เลยค่ะ
สำหรับการรักษาโรคก็คือ เซลล์จากสเต็มเซลล์นั้นในปัจจุบันนี้ไม่ได้ผลิตได้แค่นี้เค้าผลิตได้มากขึ้นก็คือ สเต็มเซลล์พอโตมามากลายเป็นเซลล์กลุ่มเม็ดเลือด หรือกลุ่มเส้นเอ็น ดังนี้ค่ะ
การรักษาโรคโดยใช้
ในปัจจุบันนี้สามารถผลิตออกมาได้หลากหลาย เช่น เซลล์เม็ดเลือด เซลล์เส้นเอ็น เซลล์กระดูก เซลล์หัวใจ เซลล์ตับอ่อน พอวิทยาศาสตร์มาถึงตรงนี้ ก็จะทำการเลือกเซลล์เหล่านี้ที่ผลิตมาจากในแลปทดลองมาใส่เข้าไป เพราะฉะนั้นการรักษาของสเต็มเซลล์ก็คือ เวลาที่เราจะทำก็จะฉีดเข้าไปในเส้นเลือด อะไรก็ตามที่ฉีดเข้าก้น ฉีดเข้ากล้าม ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ แสดงว่าเค้าไม่มั่นใจว่ามันสะอาดพอ เซลล์พวกนี้ส่วนใหญ่มักจะเป็นเซลล์สัตว์ ในมหาวิทยาลัยในต่างประเทศเองเช่น UCLA เช่น Stanford เช่น Cambridge เช่น Oxford เค้าก็กำลังทำสิ่งเหล่านี้อยู่ เช่นใส่เซลล์ตับอ่อนเข้าไปในคนเป็นเบาหวานก็จะเข้าไปซ่อมตับอ่อนมาใหม่ น้ำตาลก็ลด เบาหวานก็หายได้ อย่างเช่นคนไปล้างไตเพราะไตไม่ดี ใส่เซลล์ไตเข้าไปเยอะๆเพื่อเข้าไปซ่อมไต การปัสสาวะ การขับน้ำ ก็ดีขึ้น และสำหรับคนที่เป็นหลอดเลือดหัวใจ ฉีดเข้าไปที่ขั้วหัวใจเข้าไปสร้างหลอดเลือดใหม่ หลอดเลือดที่ใส่บอลลูน หรือ เกือบจะใส่บอลลูนก็จะดีขึ้นได้ ถ้าหากฉีดเข้าไปที่เข่า ก็สร้างเข่าใหม่
สรุปก็คือในอนาคต Stem Cell สเต็มเซลล์ จะเป็นยารักษาโรคทั่วไปได้ โดยการเข้าไปซ่อมแซมอวัยวะที่เสื่อมโทรม ยาในอนาคตก็จะเป็นยาที่เข้ามาแก้รหัสพันธุกรรม รักษาโรคทั่วไปที่ยากเกินความสามารถของมนุษย์เรา โดยการเปลี่ยนอวัยวะ ถึงกับเคยมีแพทย์บางคนเคยกล่าวไว้ว่า ภายในอนาคตมนุษย์รุ่นลูก รุ่นหลานของพวกเราอาจจะมีอายุขัยที่ยาวนานขึ้น โดยอาจจะอยู่ถึง 100-150 ปีก็เป็นได้ เพราะว่าเรามีอะไหล่ทดแทน เช่นถ้าตับเสื่อม ก็เปลี่ยนได้ หรือ ถ้าหากไตเสื่อมก็เปลี่ยนได้เช่นกัน เพียงแค่อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมหาศาลนั่นเองค่ะ
มาถึงในตอนนี้ทุกคนคงจะพอเข้าใจในเรื่องของสเต็มเซลล์กันบ้างแล้วใช่มั้ยคะ เราเรียกกันง่ายๆกันว่า เซลล์ต้นกำเนิด เพราะว่าเค้ายังเป็นเซลล์ตัวอ่อนอยู่ ยังไม่มีการแบ่งจำเพาะเป็นเซลล์หัวใจ เซลล์ตับ เซลล์ปอด และยังเป็นเซลล์ที่สามารถผลิตแบ่งตัวเองได้มากขึ้นเรื่อยๆ มีพัฒนาการได้เรื่อยๆ นี่คือคุณสมบัติพิเศษของสเต็มเซลล์นั่นเองค่ะ