การรักษาอาการปวดหัวไมเกรน นอกจากการกินยาเพื่อระงับอาการปวดแล้ว ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาให้อาการปวดลดน้อยลง นั่นก็คือ การออกกำลังกาย แต่ถ้าเลือกการออกกำลังกายที่ไม่เหมาะสมอาจเป็นการกระตุ้นให้อาการปวดแย่ลงได้เหมือนกัน ดังนั้นมาดูกันสิว่ามีวิธีการออกกำลังกายแบบไหนบ้าง ที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้
Contents
การออกกำลังกาย ลดปวดไมเกรนได้อย่างไร?
การออกกำลังกายเป็นประจำ จะทำให้ร่างกายหลั่งสารเอนโดฟินออกมามากขึ้น ซึ่งเป็นสารเคมีภายในร่างกาย ช่วยลดอาการปวด ทำให้อาการปวดหัวไมเกรนบรรเทาลงได้ ซึ่งการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยไมเกรนคือการออกกำลังกายประเภทแอโรบิก ที่ระดับความหนักปานกลาง โดยใช้เวลาในการออกำลังกายครั้งละ 30นาที และควรทำอย่างสม่ำเสมอให้ได้สัปดาห์ละ 5 ครั้ง
5 วิธีออกกำลังกายประเภทแอโรบิกเพื่อแก้ไมเกรน
สำหรับวิธีการออกกำลังกายประเภทแอโรบิก ที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนได้ดีที่สุด ก็มีดังนี้
1.การเดิน
หลังจากที่ต้องนั่งเครียดอยู่แต่หน้าจอ ลองเปลี่ยนบรรยากาศออกไปเดินข้างนอก เพื่อให้ได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ ก็จะทำให้ร่างกายและสมองรู้สึกผ่อนคลาย อาการปวดไมเกรนจึงดีขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มการเดินให้เร็วขึ้นตามความเหมาะสมของร่างกายด้วยก็ได้
2.ไทชิ
ไทชิเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง ซึ่งจะช่วยบำบัดอาการเจ็บป่วยต่างๆ ของร่างกาย เช่น การปวดหลังปวดไหล่ ระบบลำไส้ รวมทั้งการปวดไมเกรน ช่วยฝึกสมาธิและช่วยรักษาภาวะอารมณ์ให้สมดุลมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย
3.ปั่นจักรยาน
ผลจากการศึกษาจากศูนย์โรคปวดหัว แห่งประเทศสวีเดน ได้ทำการศึกษาวิจัย และพบว่าการปั่นจักรยานสามารถลดอาการปวดหัวไมเกรนได้มากถึง 90% เลยทีเดียว ทั้งนี้การปั่นจักรยานอยู่กับที่ก็ได้ผลดีเช่นกัน
4.วิ่งจ็อกกิ้ง
การวิ่งเหยาะๆ จะช่วยลดอาการปวดไมเกรนและป้องกันอาการกำเริบ สำหรับผู้ที่เริ่มมีสัญญาณไมเกรนได้ เพราะฉะนั้นหากรู้สึกว่ากำลังจะปวดหัวไมเกรน ก็ให้ลองวิ่งจ็อกกิ้งเบาๆ กันดู
5.ว่ายน้ำ
ประโยชน์ของการว่ายน้ำคือ ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ปอด หัวใจให้แข็งแรง และยังเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด เพราะร่างกายมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะการว่ายน้ำในท่ากรรเชียง ดังนั้นลองหาเวลาไปว่ายน้ำวันละนิด ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก
การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยลดความถี่จากการปวดไมเกรนได้ เพราะการออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายเกิดความผ่อนคลาย และเลือดไหลเวียนดีขึ้น เพราะฉะนั้นมาออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันกันเถอะ