ช่วงปลายฝนต้นหนาวด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวเดี๋ยวฝนตกทำให้ร่างกายคนเราปรับสภาพไม่ทัน สำหรับคนทีแพ้อากาศได้ง่าย ต้องระวังและดูแลตนเองเป็นพิเศษหาไม่แล้วคงจะหนีไม่พ้นโรคหวัดเป็นแน่แท้ เพื่อเป็นการเตรียมตัวรับมือและป้องกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เรามีหนทางรับมือกับโรคหวัด 11 วิธีมาฝากค่ะ
11 วิธีสู้หวัด ช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
ควรหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ
เพราะในที่ทำงานหรือการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ นั้นคุณไม่อาจรู้เลยว่ามีใครที่เป็นหวัดอยู่บ้าง และเครื่องใช้อุปกรณ์สำนักงานที่ใช้ร่วมกันนั้นจะมีเชื้อหวัดปะปนอยู่หรือไม่ หากคุณสัมผัสก็จะทำให้คุณติดหวัดได้ง่าย หรือควรพกเจลล้างมือ ติดตัวไว้ให้เป็นนิสัยเพื่อความสะอาด และป้องกันในขั้นแรกค่ะ
ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรดื่มน้ำอุ่นๆ หลังตื่นนอนตอนเช้าน้ำอุ่นจะช่วยให้ขอชุ่มชื้นช่วยขับเสมหะ และลดอาการไอได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญควรอาบน้ำอุ่นจะเป็นการช่วยปรับสภาพ และควบคุมอุณหภูมิภายในร่างกายให้คงที่ไม่เย็นจนเกินไปจนเป็นสาเหตุของอาการไม่สบาย
สวมเสื้อผ้าให้เพียงพอให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ
ทำให้ร่างกายอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา กลไกการทำงานของร่างกายซึ่งเมื่อมีเชื้อโรค หรือแบคทีเรียมาคุกคามจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น แต่นั่นเป็นเรื่องปกติไม่ต้องกังวลใจหากรู้สึกว่าตัวร้อนขึ้นคล้ายกับจะเป็นไข้ เพราะนั่นหมายถึงว่าภูมิคุ้มกันในร่างกายกำลังทำงานหนักเพื่อจัดการสู้กับเชื้อโรคอยู่
ใช้สมุนไพรไทยที่ชื่อว่าฟ้าทลายโจร
มีสรรพคุณสำคัญสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อ และการอักเสบได้ค่ะ ในปัจจุบันนี้แพทย์แผนไทยได้ปรุงยาชนิดนี้ออกมาในหลากหลายรูปแบบ ทั้งแคปซูล ในรูปแบบของชาและลูกกลอน สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม
ใช้น้ำเกลือกลั้วคอ
ชงน้ำเกลืออุ่น ๆ อมบ้วนปาก และกลั้วคอทุกเช้าจะช่วยบรรเทาอาการระคายคอ เจ็บคอได้
จิบน้ำอุ่นตลอดวัน
จะเป็นน้ำสมุนไพรเช่นน้ำตะไคร้ น้ำมะตูม น้ำเก๊กฮวย ก็เป็นผลดีเช่นกัน และควรดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นการลดอาการตัวร้อน และบรรเทาอาการไอเจ็บคอเนื่องจากการระคายเคือง และมีเสมหะมาก พักผ่อนให้เพียงพอ งดอาหารมัน ๆ งดอาหารรสจัด และงดของทอด
แช่น้ำสมุนไพรที่อุ่นค่อนข้างร้อน
หรืออบตัวด้วยสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม เพื่อทำให้จมูกโล่งขึ้นเช่น ขมิ้นไพล ตะไคร้ มะกรูดและหอมแดง สมุนไพรเหล่านี้จะช่วยให้หายจากอาการคัดจมูก ผ่อนคลายและสบายตัวขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถนำน้ำมันหอมระเหยจุดวางไว้ตามมุมห้องจะช่วยให้รู้สึกโล่งสบายขึ้นได้
ดื่มน้ำขิงร้อนๆหรือทำไข่ตุ๋นใส่พริกไทยดำมากๆ
ทำให้ร่างกายอบอุ่น ความเผ็ดร้อนในสมุนไพรเหล่านี้จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสได้ดี
ทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง
จะช่วยต้านหวัดได้ซึ่ง วิตามินซีในผลไม้เหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกันในร่างกายเพื่อต่อสู้กับไข้หวัด และวิตามินซีมีมากในผลไม้รสเปรี้ยวอาทิเช่น มะนาว มะขามป้อม สับปะรด ส้ม ฝรั่ง ฯลฯ รู้อย่างนี้แล้วคงต้องรีบไปหามาทานบ้างคงจะดีไม่น้อย
ตามหลักแพทย์แผนจีนมักแนะนำให้ทานซุปไก่ร้อนๆ
ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเมนูต้านหวัดของแทบทุกชาติ ตามงานวิจัยพบว่า ซุปไก่มีฤทธิ์ยับยั้งการเคลื่อนที่ของเม็ดเลือดขาวชนิดที่เรียกว่า นิวโทรฟิล ไปยังเนื้อเยื่อปอด ทำให้ลดกระบวนการอักเสบในปอด และลดอาการไอได้ด้วย ว่ากันว่าใช้วิธีนี้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 โดยตำรับที่ใช้ศึกษาจะรวมสมุนไพรที่ใช้ต้านหวัดรวมไปถึงพริกไทย ส่วนวิธีการตุ๋นน้ำซุปสูตรต้านหวัดนี้ไม่ยากค่ะ เพียงแค่เตรียมเนื้อไก่ มันฝรั่ง คึ่นช่าย ผักชี พริกไทย แครอท หัวผักกาด และเกลือ นอกจากนั้นยังรวมถึงต้มยำไก่ แกงไก่ยังมีสมุนไพรต้านหวัดอยู่อีกหลายชนิด
กระเทียม
ถือว่าเป็นยาดีที่มีฤทธิ์ในการต้านและลดหวัดได้เช่นกัน หากมีอาการหวัดให้นำกระเทียม 1 กลีบใหญ่ ปอกเปลือกออกแล้วหั่นบาง ๆ ใส่ในถ้วยแก้ว และใช้ช้อนบี้ให้แตก แช่ในน้ำร้อนปิดไว้ห้านาทีจากนั้นเติมน้ำผึ้งและบีบมะนาวลงไปเพียงเล็กน้อย ดื่มวันละสองถ้วยจะช่วยบรรเทาอาการได้ เมื่อหายแล้วควรดื่มต่ออีกประมาณสองถึงสามวัน วันละหนึ่งถ้วยหรือทุกวันก็เป็นผลดี เพราะกระเทียมจะช่วยป้องกัน และรักษาไข้หวัดได้เป็นอย่างดี นักวิจัยชาวจีน ดร.เบนจามิน เลา แห่งมหาวิทยาลัยโลมาลินดาในแคลิฟอร์เนีย ได้ศึกษายารักษาโรคตามแบบแพทย์ตะวันออกมานาน ได้ทำการศึกษาแล้วพบว่า “กระเทียม” มีกำมะถันเป็นองค์ประกอบ ซึ่งออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และไวรัสหวัดได้โดยตรง และยังช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวได้
ถึงแม้จะมีสูตรต้านหวัดดีแค่ไหนก็ตาม ทางที่ดีที่สุดคือหลีกเลี่ยงและป้องกันโดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอแค่นี้ก็ห่างไกลโรคหวัดแล้วค่ะ